ส้มตำปูปลาร้า
สำหรับคนที่ปลาร้าคือชีวิต ไปร้านอาหารอีสานก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งตำปูปลาร้าแน่นอน นอกจากรสชาติที่แซ่บนัวแล้ว ยังให้พลังงานจิ๊บๆ เพียง 40 Cal แต่ถึงกระนั้นก็ต้องระวังเรื่องโซเดียม เดี๋ยวโรคความดันโลหิตสูง กับโรคไตจะถามหาไม่รู้ด้วยนะครับ🌶✨
ส้มตำไทย
สำหรับคนที่ไม่ชอบทานปลาร้า ตำไทยถือว่าตอบโจทย์ที่สุด โดยตำไทย 1 จาน ให้พลังงานเพียง 55 Cal เท่านั้น แต่ต้องระวังเรื่องโซเดียมจากน้ำปลาและผงชูรส สำหรับทางเลือกคลีนๆ และดีต่อสุขภาพ เวลาสั่งส้มตำแนะนำให้บอกคนทำว่าไม่ใส่ผงชูรส 🌶✨
ลาบหมู
ลาบหมูที่ปรุงแบบไม่ใส่หนังหมูและผงชูรส ก็นับว่าเป็นอาหารคลีนดีๆ นี่เอง โดยลาบหมู 1 จาน ให้พลังงานเพียง 150 Cal ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูสำหรับคนรักสุขภาพ และหากกำลังอยู่ในช่วงควบคุมคาร์โบไฮเดรต ก็แนะนำว่าไม่ควรทานกับข้าวเหนียว เพราะเดี๋ยวจะอร่อยเพลินจนลืมเรื่องแคล 🌶✨
ตับหวาน
ตับหวาน 1 จาน ให้พลังงานประมาณ 300 Cal ตับอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็น แร่ธาตุสำคัญในการสร้างฮีโมโกบิลในเซลล์เม็ดเลือดแดง ถึงจะมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ แต่ตับก็มีคอเลสเตอรอลอยู่สูงเหมือนกัน จึงแนะนำว่า ให้ควบคุมปริมาณให้ พอเหมาะ และอย่าทานบ่อยมากจนเกินไป 🌶✨
้ต้มแซ่บกระดูกอ่อน
เมนูต้มแซ่บกระดูกอ่อน เมนูนี้ดูเหมือนว่าจะให้พลังงานสูงสักหน่อย โดยต้มแซ่บกระดูกอ่อน 1 ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 400 Cal จึงเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ ทั้งนี้ ถึงแคลจะสูง แต่ก็ได้ปริมาณโปรตีนสูงถึง 29.1 กรัม นับว่าเป็นปริมาณโปรตีนที่ไม่น้อยเลย 🌶✨
สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญในการทานอาหารอีสานคือ เรื่องสุขอนามัย ต้องทานอาหารที่ปรุงสุกเท่านั้น และต้องระวังปริมาณโซเดียมจากเครื่องปรุงต่างๆ เช่น น้ำปลา น้ำปลาร้า เพียงเท่านี้ชาวลีนก็สามารถทานอาหารอีสานได้อย่างสบายใจ 😍💕
อาหารอีสานสุดแซ่บกี่แคลมาดูกัน

อาหารอีสาน เป็นอาหารไทยยอดนิยม ที่หากินได้แทบทุกตรอกซอกซอย กินได้ทุกเพศทุกวัย ✅✨ ไม่รู้ว่าจะกินอะไร อาหารอีสานคือทางออก เพราะด้วยรสชาติที่แซ่บนัว จัดจ้าน ถูกปากคนไทย ทำให้อาหารอีสานไม่สามารถแยกขาดจากวิถีชีวิตของคนไทยได้ 😍🎉วันนี้เราเลยจะมาไขรหัสพลังงานในอาหารอีสานยอดฮิต เพื่อให้ชาวลีนทุกคนได้ทานอาหารอีสานแบบ #ยิ่งกินยิ่งลีน กันไปเลย 😋💕
